Press ESC to close

Naive Flora TattooNaive Flora Tattoo Nature and Ink Unite. Your Floral Story Begins.

ราคาสักคิดยังไง? ปัจจัยที่กำหนดราคาของรอยสัก

รอยสักหนึ่งลาย = ราคาหนึ่งเรื่อง

เวลาเราเห็นราคา “เริ่มต้นเท่านี้” ของร้านสัก หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมบางลายเล็กแต่ราคาแรง ในขณะที่บางลายใหญ่แต่ดูเหมือนคุ้มกว่า ความจริงคือ “ราคาสัก” ไม่ได้วัดกันที่ขนาดอย่างเดียว แต่มันมีปัจจัยซับซ้อนกว่านั้นมาก

1. ขนาดและตำแหน่งของรอยสัก

ขนาดใหญ่ = ใช้เวลานานกว่า = ราคาสูงกว่า แต่ถ้าสักในตำแหน่งยาก เช่น ซี่โครง ข้อเท้า หรือต้นคอ ก็อาจบวกเพิ่ม เพราะต้องใช้ความละเอียดสูงและท่าทางที่ลำบากกว่าเดิม

2. รายละเอียดและความซับซ้อนของลาย

เส้นเยอะ เงาแน่น รายละเอียดสูง ราคาก็ขึ้นตามแรงมือและเวลาที่ใช้ ลายมินิมอลอาจราคาถูกกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าง่าย บางลายเส้นเดียวผิดคือพังทั้งชิ้น

3. ชื่อเสียงและประสบการณ์ของช่าง

ช่างที่มีผลงานระดับโปรหรือมีสไตล์เฉพาะตัว ย่อมมีเรทราคาสูงกว่า เพราะคุณไม่ได้จ่ายแค่ “ลายสัก” แต่จ่ายให้กับ “ฝีมือ” และ “ความมั่นใจว่าจะออกมาสวยแน่”

4. สีและอุปกรณ์ที่ใช้

ลายขาวดำจะถูกกว่าลายสี เพราะต้องใช้หมึกหลายเฉดและเวลามากกว่า อีกอย่าง ร้านที่ใช้ของคุณภาพสูง ปลอดภัยกับผิว ราคาย่อมสูงขึ้นตามคุณภาพ (แต่ก็คุ้มกว่าเสี่ยงแพ้หรือหมึกซีดในไม่กี่เดือน)

5. เวลาในการทำงาน

บางร้านคิดตาม “ชั่วโมง” เช่น ชั่วโมงละ 1,000–3,000 บาท ขึ้นอยู่กับช่าง บางร้านคิดเป็น “ลาย” ถ้าลายมีรายละเอียดมากแต่ขนาดเล็ก ราคาก็ยังอาจสูงอยู่

6. การออกแบบเฉพาะตัว (Custom Design)

ถ้าคุณอยากได้ลายที่ช่างออกแบบเฉพาะให้คนเดียว ราคาจะรวมเวลาคิดลาย วาดร่าง และปรับแบบ ซึ่งอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงก่อนลงเข็มจริง

7. การดูแลหลังสัก

บางร้านมีบริการดูแลหลังสัก เช่น แผ่นปิดแผล ครีม หรือการรับประกันการเติมหมึก ก็มีผลต่อราคารวมทั้งหมด

สรุป: “รอยสักดี” ไม่มีของถูก

การสักคือการฝากศิลปะบนร่างกายไปตลอดชีวิต ราคาที่จ่ายคือค่าของ “ความตั้งใจและฝีมือ” ไม่ใช่แค่หมึกกับเครื่องสัก อย่าหลงกับราคาถูกที่ต้องแก้ทีหลัง เพราะ “รอยสักดีๆ ไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด แต่ต้องคุ้มค่าที่สุดสำหรับเรา”

อยากรู้ราคาประเมินลายที่อยากสัก ส่งแบบร่างหรือไอเดียของคุณมาที่ Naive Flora Tattoo แล้วให้เราช่วยคำนวณราคาจริง พร้อมแนะนำช่างที่เหมาะกับสไตล์คุณ